ความทรงจำวัยเด็ก จากการชอบเล่นทำอาหาร พอได้โอกาสเราเลยหยิบยกเรื่องนี้มาทำ Stop motion แบบสั้นๆ เพราะเราอยากเติมเต็มจินตนาการจากมุมเล็กๆในใจของเรา
ความทรงจำวัยเด็ก และการเล่นทำอาหารตอนโต
Contents 📝
ขอเกริ่นความทรงจำวัยเด็ก
สมัยเด็กๆ เป็นคนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ วาดเล่นมาตั้งแต่จำความได้ค่ะ เราเคยหยิบสีชอล์คไปวาดข้างกำแพง ตอนนั้นคุณแม่โกรธมากๆเลย คุ้นๆว่าต้องมาเช็ดเองให้ออก และมันไม่ออกไง ( ฮ่า ) สมัยเด็กๆคุณแม่จะซื้อสมุดวาดเขียนไว้ให้เยอะมากๆ เราจะวาดเล่นไปเรื่อยๆ เป็นการ์ตูนบ้าง เป็นเสื้อผ้าสวยๆที่เราชอบบ้าง อะไรที่เราเห็น เราหยิบมาวาดหมด เราเติบโตมาในบ้านตึกแถวที่กรุงเทพมหานครฯ คุณแม่มีร้านเสริมสวยที่บ้าน เราจำได้ว่าเราโตในห้องเสริมสวย มองไปทางไหนก็จะเห็นตึกรอบบ้าน ไม่ค่อยเห็นป่า สวน สักเท่าไหร่
ไปต่างจังหวัดทุกปิดเทอม
ช่วงสมัยเด็กๆ ทุกเปิดเทอม เราจะไปบ้านเกิดของคุณยาย ที่จังหวัดแพร่ เป็นจังหวัดเล็กๆทางภาคเหนือ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ ช่วงแรกที่ไปอยู่ที่แพร่ เราเล่นอะไรไม่เป็นเลย เพื่อนก็ไม่ค่อยมี เราจำได้ว่าคุณแม่เป็นห่วง คุณแม่เอาตุ๊กตาบาร์บี้ทั้งหมดที่มี ใส่กล่องไปรษณีย์ส่งมาให้ เพราะเป็นห่วงลูกสาวทั้ง 2 คน กลัวจะเบื่อ ตอนได้บาร์บี้ เราตื่นเต้นแหล่ะ เราเปิดกล่องมาเล่นกับบาร์บี้คนสวยของเราทุกวัน ไม่นานไปเราก็เริ่มจะเบื่อ
เริ่มต้นหาของเล่นใหม่
ช่วงนั้นเรากับน้องสาว เริ่มผจญภัยในบ้านยาย เราจำได้ว่าเจอ จาน ชาม กะทะ พลาสติกเล็กๆ ของเล่นใครสักคน ( ไม่รู้ของใคร ) เราก็เอามาลองเล่นดู แล้วพบว่ามันไม่สนุกเลย มันแห้งมากๆ โชคดีที่น้าของเราเริ่มเอาสมุด กับดินสอมาให้ขีดเขียนแล้ว เราเลยลองวาดอาหารไปเรื่อยๆ เอาขนาดเดียวกับกะทะนั่นแหล่ะ คิดแค่ว่าถ้าเอามาเล่นด้วยกันน่าจะดี
ตกลงได้นำภาพวาดมาเล่นกับกระทะของเล่นไหม
จำได้ลางๆว่า เราเปิดสมุดแล้วเห็นภาพอาหารที่ตัวเองวาด แต่ไม่ได้ตัดออกมา ตอนนั้นน่าจะอายุราวๆ 7 – 8 ปี น่าจะยังใช้กรรไกรไม่เป็น แต่จำได้แม่นเลยว่า เปิดดูแต่ภาพที่ตัวเองวาดอยู่เรื่อยๆ แค่นั้นก็มีความสุขดี เพราะเราชอบงานของเรามากๆ ดูได้ไม่มีเบื่อเลย
สุดท้ายได้เล่นอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน พี่ข้างบ้านก็ชวนไปเล่นแคะขนมครก แคะดินเป็นรูแล้วหยอดน้ำลงไป บางครั้งเล่นขายก๋วยเตี๋ยว เรามีร้านก๋วยเตี๋ยว เราเอาซังข้าวโพดมาทำเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เราเอาก้อนหินมาทำเป็นลูกชิ้น เราตักน้ำมาเป็นน้ำซุป ในวัยขนาดนั้น เรารู้สึกว่าเราเจ๋งมาก ที่เราสามารถเอาของรอบตัวมาเล่นได้ไม่จำกัด เราสนุกกับการหาของเล่นรอบบ้านทุกวัน เราแทบไมได้เล่นตุ๊กตาของเราเลย เพราะโลกข้างนอกมันสนุกมากกว่า
ประทับใจอะไรในเรื่องนี้
สิ่งที่ติดในใจคือ เรายังไม่ได้ทำสิ่งที่เราอยากจะทำตอนเด็กๆให้เสร็จ เพราะเราตัดกระดาษไม่เป็น พอโตขึ้น แล้วต้องคิดโปรเจ็คส่วนตัวขึ้นมาสักงานนึง งานนี้จึงผุดขึ้นมาพร้อมความทรงจำที่มีภาพไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ เราอยากทำภาพนั้นให้ชัดเจนขึ้น อย่างน้อยเหมือนเป็นการสานฝัน ต่อเติม ‘ความทรงจำของเราวัยเด็ก’ ให้สมบูรณ์ เลยเป็นที่มาของ Stop motion ชุดนี้ค่ะ
Stop Motion ตัวแรกที่ได้ลองทำ ตัด video ได้พื้นฐานก็มาจากการทำงานชิ้นนี้เลยค่ะ เรียนรู้เยอะมากๆ
งานชิ้นเดิม แต่กลับมาดูอีกที พบว่าอยากลองเอามาตัดใหม่ รอบนี้เราตัดในแอป มันง่ายกว่าเดิมมาก และเราสนุกกว่าเดิมมาก
เบื้องหลัง Stop Motion | Childhood cooking
โปรเจคชุดนี้มาจาก 1 ใน 10 โปรเจคที่เตรียมทำพอร์ทเพื่อไปเรียนต่อ และด้วยความที่ทำงานดีไซน์สำหรับองค์กร จนไม่มีสไตล์งานเป็นของตัวเอง รู้สึกว่าต่อยอดไม่ได้ เกิดอาการ Art Block เราอ่านข้อมูลแล้วพบว่าเราต้องทำพอร์ทโฟลิโอ้ เราอยากได้คนไกด์ พาเราไปให้ถูกทาง เลยไปลงคอร์สเรียนทำพอร์ทโฟลิโอ้สำหรับยื่นเรียนต่อต่างประเทศที่ The Factory Studio ของพี่เก่งและพี่จี๊ป ที่ล่าสุดเพิ่งย้ายสตูมาแถวๆ อารีย์ พร้อมกับชื่อใหม่ว่า FAC : Factory Art Centre สอนศิลปะและการออกแบบ
ช่วงเวลาการตัดสินใจ
ตอนแรกเราแค่อยากทำเมนูอาหารทีละสเต็ป แต่น้องๆในทีมที่สอน แนะนำว่าให้ทำ Stop motion ดีกว่า เพราะเราก็ทำงานหนังสือมาเยอะแล้ว น่าจะทำอะไรที่ไม่เคยได้ลองทำ ซึ่งเราไม่มั่นใจว่าจะทำทันไหม เราทำงานประจำด้วย เรียนไอเอลด้วย แล้วก็ทำพอร์ทอีก กลัวทำงานชิ้นนี้ไม่ทัน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทำ เพราะคิดว่า ลองดูก็ได้ ไม่เสียหายอะไร ถ้าไม่ทันก็แค่รวมภาพถ่ายไปจัดเป็นตำราอาหารแทน
ขั้นตอนการทำ – นักปั้นกระดาษ
เราหาเมนูที่ทำง่าย ขั้นตอนน้อย เราลดขั้นตอนบางอย่างในการทำอาหารลงไป เราก็เลือกมา 3 เมนูที่คิดคู่สีออกมาแล้ว โทนออกมาคิดว่าน่าจะน่ารัก เลยได้มา 3 เมนูดังนี้
- Grilled Salmon
- Caesar Salad
- Spaghetti
โดยเราใช้วิธีการคล้ายๆ ‘เปเปอร์มาเช่’ ( Paper mache ) แต่ประยุกต์เอาโดยการปั้นหนังสือพิมพ์เป็นรูปทรงอาหาร ใช้ปืนกาวยิง ปั้นกระดาษไปเรื่อยๆให้พอได้ฟอร์ม แล้วแปะกระดาษทับลงไป พันด้วยเทปกาว ไม่เน้นเนี้ยบ คู่สีที่ใช้พยายามเลือกโทนพาสเทล ( Pastel ) และโทนสีที่สดใสนี่คือความตั้งใจแรกของเรา ที่อยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบในใจมากที่สุด
ขั้นตอนการทำ – วันถ่ายทำ
ตอนถ่ายทำ เราขนของไปถ่ายที่สตูโรงเรียน พร้อมมีน้องๆ พีๆในทีมมาช่วย และช่วยแนะนำงานของเรา อย่างเช่น ‘ถ้าเราขยับงานให้ดุ๊กดิ๊กมากๆ จะช่วยให้งานน่ารักขึ้น’ หรือ น้องๆบางคนสอนเราใช้ light room เพิ่อปรับสีงานให้เท่ากัน เพราะวันที่ถ่าย ถ่าย 3 วันแสงไม่เท่ากัน ความอุ่นของแดดไม่เท่ากัน บางวันที่ถ่ายไม่มีแดด แม้จะขลุกขลักบ้างเล็กน้อย แต่เราก็โอเคนะ ผ่านไปได้
ขั้นตอนการทำ – วันตัดต่องาน
ตอนตัดต่องาน ด้วยความที่จอคอมเล็กมาก ค่อนข้างตัดยากมากๆ มีพีคสุดคือ คอมดับไปเลย เพราะเปิดทั้ง light room และ premiere pro ตอนนั้นเครียดและท้อใจ ที่ใช้โปรแกรมไม่คล่อง แต่ก็ทำไปเรื่อยๆ สู้ไปกับมัน เพราะเราก็มีเป้าหมายข้างหน้าอยู่เหมือนกัน ตอนที่ผลงานออกมาคือ แฮปปี้มากๆ อยากขอบคุณใจตัวเองที่ไม่ยอมแพ้มากๆ ถึงจะเป็นงานสั้นๆ ความยาว 1 นาที แต่ขั้นตอนการทำ การตัดต่อ ราวๆ 3 อาทิตย์เลย เพราะเราต้องใช้เวลาว่างจากงานประจำมาปั้นกระดาษ มาเพ้นท์ รวมไปถึงวันที่ถ่ายงาน และวันตัดงานด้วย
สรุป
ความทรงจำวัยเด็กที่เลือนลางมากๆ ถูกเติมเต็มในวัยผู้ใหญ่ของเรา ที่อยากถ่ายทอดมุมเล็กๆในใจ ออกมา ขอบคุณตัวเอง ( และทีมผู้สอน )หลายๆครั้งที่ผ่านมาได้ ท้อแต่ก็ไปต่อ อยากขอบคุณความทรงจำวัยเด็กของเรา ที่มีเรื่องราวที่เราสามารถต่อเติมสร้างสรรค์จินตนาการออกมาจนเป็นผลงาน Stop motion ชิ้นนี้ ถึงมันจะดูธรรมดา แต่เด็กน้อยภายในใจของเราดีใจกับงานชิ้นนี้มากๆ เหมือนเราได้คอนเนคกับวัยเด็กของเราอีกครั้งหนึ่ง
ขอบคุณน้องมาตาเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่นอนวาดรูปเล่นอยู่ในห้องเสริมสวยคนนั้น
View this post on Instagram